10 Niacinamide ไนอาซินาไมด์ ยี่ห้อไหนดี รีวิวจากผู้ใช้จริงว่าดีและเห็นผลลัพธ์ที่สุด
ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) เป็นวิตามินบี 3 ชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณมากมาย เช่น ช่วยปรับสมดุลการผลิตน้ำมันบนผิว ช่วยลดเลือนรอยแดง รอยดำจากสิว ช่วยให้ผิวกระจ่างใส เรียบเนียน และกระชับรูขุมขน
ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์ออกวางจำหน่ายมากมาย หลากหลายยี่ห้อ หลากหลายแบรนด์ แต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นและข้อดีที่แตกต่างกันออกไป
บทความนี้จึงจะรวบรวม 10 อันดับ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ ไนอะซินาไมด์ ยี่ห้อไหนดี ที่ได้รับการรีวิวจากผู้ใช้จริงว่าดีและเห็นผล มาให้ทุกคนได้เลือกซื้อกัน โดยผลิตภัณฑ์ที่คัดเลือกมานั้น จะเน้นที่ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์เข้มข้นตั้งแต่ 2% ขึ้นไป
นอกจากนี้ บทความนี้ยังจะแนะนำวิธีการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์ให้เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาผิวของตัวเองอีกด้วย สำหรับใครที่สนใจอยากลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์ บทความนี้จะเป็นแนวทางที่ดีในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับตัวเอง และ ไนอะซินาไมด์ ห้ามใช้กับอะไร ข้อควรระวัง รวมถึง คำแนะนำ ไนอะซินาไมด์ ควรเลือกใช้กี่เปอร์เซ็นต์ ให้เหมาะสม
10 Niacinamide ไนอาซินาไมด์ ยี่ห้อไหนดี รีวิวจากผู้ใช้จริงว่าดี
สำหรับใครที่สนใจอยากลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์ เรามี 10 อันดับผลิตภัณฑ์แนะนำมาฝาก ดังนี้ ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) เป็นวิตามินบี 3 ชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณมากมาย เช่น ช่วยปรับสมดุลการผลิตน้ำมันบนผิว ช่วยลดเลือนรอยแดง รอยดำจากสิว ช่วยให้ผิวกระจ่างใส เรียบเนียน และกระชับรูขุมขน
back to menu ↑
La Roche-Posay Pure Niacinamide 10
La RochePosay Pure Niacinamide 10เป็นเซรั่มไนอะซินาไมด์เข้มข้น 10% ที่ช่วยปรับสมดุลการผลิตน้ำมันบนผิว ลดเลือนรอยแดง รอยดำจากสิว ช่วยให้ผิวกระจ่างใส เรียบเนียน และกระชับรูขุมขน ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม และพาราเบน
The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1%
Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1%เป็นเซรั่มไนอะซินาไมด์เข้มข้น 10% ผสมซิงก์ 1% ที่ช่วยปรับสมดุลการผลิตน้ำมันบนผิว ลดการอักเสบของสิว ช่วยให้ผิวกระจ่างใส และกระชับรูขุมขน เหมาะกับผิวที่มีปัญหาสิว
CeraVe PM Facial Moisturizing Lotion
CeraVe PM Facial Moisturizing Lotionเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์ 4% ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ลดเลือนริ้วรอย และช่วยให้ผิวกระจ่างใส
back to menu ↑Innisfree Green Tea Seed Serum
เป็นเซรั่มที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์ 2% ผสมสารสกัดชาเขียว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ลดเลือนริ้วรอย และช่วยให้ผิวกระจ่างใส
Eucerin Pro Acne Solution Anti-Redness Night Treatment
Eucerin Pro Acne Solution AntiRedness Night Treatmentเป็นครีมบำรุงผิวสูตรกลางคืนที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์ 4% ช่วยลดการอักเสบของสิว ช่วยให้ผิวกระจ่างใส และลดเลือนรอยแดงจากสิว
back to menu ↑Senka Perfect Whip Collagen in
Senka Perfect Whip Collagen inเป็นโฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์ 2% ช่วยทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน พร้อมบำรุงผิวให้กระจ่างใส
Hada Labo Gokujyun Premium Hyaluronic Acid Lotion
Hada Labo Gokujyun Premium Hyaluronic Acid Lotionเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์ 2% ผสมไฮยาลูรอน 4 ชนิด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ลดเลือนริ้วรอย และช่วยให้ผิวกระจ่างใส
back to menu ↑Cetaphil Moisturizing Lotion
Cetaphil Moisturizing Lotionเป็นมอยส์เจอไรเซอร์สูตรอ่อนโยนที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์ 2% ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ และพาราเบน
back to menu ↑Biore UV Aqua Rich Watery Essence
Biore UV Aqua Rich Watery Essenceเป็นกันแดดเนื้อบางเบาที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์ 2% ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด พร้อมบำรุงผิวให้กระจ่างใส
back to menu ↑Nivea Sun Protect & White SPF50+ PA++++
Nivea Sun Protect & White SPF50+ PA++++เป็นกันแดดเนื้อบางเบาที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์ 2% ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด พร้อมบำรุงผิวให้กระจ่างใส
การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์ ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาผิวของตัวเอง โดยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์เข้มข้น เช่น 10% ควรใช้อย่างระมัดระวังสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย อาจเริ่มต้นใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์เข้มข้นน้อยกว่า เช่น 2% แล้วค่อยๆ เพิ่มปริมาณขึ้นตามสภาพผิว
นอกจากนี้ ควรเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์อย่างสม่ำเสมอเป็นประจำอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
back to menu ↑Niacinamide ไนอะซินาไมด์ ห้ามใช้กับอะไร ข้อควรระวัง (2)
ไนอะซินาไมด์ เป็นส่วนผสมของสกินแคร์ที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณมากมาย แต่ก็มีบางส่วนผสมที่ไม่ควรใช้ร่วมกับไนอะซินาไมด์ เพราะอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองหรือลดประสิทธิภาพของกันและกันได้
ส่วนผสมที่ไม่ควรใช้ร่วมกับไนอะซินาไมด์ ได้แก่
- กรดวิตามินซี (Vitamin C) : กรดวิตามินซีและไนอะซินาไมด์ ต่างก็มีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิว จึงอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้ หากใช้ร่วมกัน ควรใช้ห่างกันอย่างน้อย 15 นาที
- สารประกอบเรตินอยด์ (Retinoids) : สารประกอบเรตินอยด์ เช่น เรตินอล (Retinol) และกรดวิตามินเอ (Retinoic acid) มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวเช่นเดียวกับไนอะซินาไมด์ จึงอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้เช่นกัน หากใช้ร่วมกัน ควรใช้ห่างกันอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- สารประกอบ BHA (Beta Hydroxy Acid) : สารประกอบ BHA เช่น กรดซาลิไซลิก (Salicylic acid) มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวเช่นกัน จึงอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้ หากใช้ร่วมกัน ควรใช้ห่างกันอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- สารประกอบ AHA (Alpha Hydroxy Acid) : สารประกอบ AHA เช่น กรดไกลโคลิก (Glycolic acid) มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวเช่นกัน จึงอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้ หากใช้ร่วมกัน ควรใช้ห่างกันอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ผู้ที่มีปัญหาผิวบอบบางแพ้ง่าย ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์ในปริมาณที่น้อยลง และควรเริ่มใช้อย่างช้าๆ โดยทาเพียงวันละครั้ง แล้วค่อยๆ เพิ่มจำนวนครั้งขึ้นตามสภาพผิว
back to menu ↑ไนอะซินาไมด์ Niacinamide ควรเลือกใช้กี่เปอร์เซ็นต์ ให้เหมาะสม (3)
เปอร์เซ็นต์ของไนอะซินาไมด์ที่เหมาะสมในการเลือกใช้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาผิวของแต่ละบุคคล โดยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์ส่วนใหญ่จะมีเปอร์เซ็นต์อยู่ในช่วง 2-10%
- สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ควรเริ่มต้นใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์เข้มข้น 2% ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มเปอร์เซ็นต์ขึ้นตามสภาพผิว หากมีอาการระคายเคือง ควรหยุดใช้ทันที
- สำหรับผู้ที่มีผิวปกติ สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์เข้มข้น 5% ได้
- สำหรับผู้ที่มีผิวมีปัญหา เช่น สิว รอยแดง รอยดำ สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์เข้มข้น 10% ได้
เลือกใช้อย่างไร Niacinamide เหมาะกับใครบ้าง (4)
หากต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์ร่วมกับส่วนผสมอื่น เช่น กรดวิตามินซี สารประกอบเรตินอยด์ หรือสารประกอบ BHA ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์ในเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำกว่า เพราะส่วนผสมเหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้
นอกจากนี้ ควรเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์อย่างช้าๆ โดยทาเพียงวันละครั้ง แล้วค่อยๆ เพิ่มจำนวนครั้งขึ้นตามสภาพผิว หากมีอาการระคายเคือง ควรหยุดใช้ทันที
Niacinamide หรือที่รู้จักกันในชื่อวิตามินบี 3 เป็นส่วนผสมของสกินแคร์ที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณมากมาย เช่น
- ช่วยปรับสมดุลการผลิตน้ำมันบนผิว
- ช่วยลดเลือนรอยแดง รอยดำจากสิว
- ช่วยให้ผิวกระจ่างใส
- เรียบเนียน
- กระชับรูขุมขน
โดยรวมแล้ว Niacinamide เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้แต่ผิวบอบบางแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ควรเริ่มต้นใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide เข้มข้น 2% ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มเปอร์เซ็นต์ขึ้นตามสภาพผิว หากมีอาการระคายเคือง ควรหยุดใช้ทันที
นอกจากนี้ Niacinamide ยังเหมาะกับผู้ที่มีผิวมีปัญหา เช่น สิว รอยแดง รอยดำ เพราะสามารถช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยสรุปแล้ว Niacinamide เหมาะกับใครก็ได้ที่ต้องการบำรุงผิวให้แข็งแรง กระจ่างใส และเรียบเนียน
back to menu ↑ไนอะซินาไมด์ Niacinamide ช่วยเรื่องอะไรบ้างประโยชน์ (5)
ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) เป็นวิตามินบี 3 ชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณมากมาย เช่น
- ช่วยปรับสมดุลการผลิตน้ำมันบนผิว : Niacinamide ช่วยควบคุมการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้ผิวไม่แห้งเกินไปหรือผลิตน้ำมันมากเกินไป เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมันหรือผิวผสม
ผิวมัน
- ช่วยลดเลือนรอยแดง รอยดำจากสิว : Niacinamide ช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ก่อให้เกิดเม็ดสีเมลานิน ซึ่งเป็นสาเหตุของรอยแดงและรอยดำจากสิว
รอยแดง
- ช่วยให้ผิวกระจ่างใส : Niacinamide ช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ทำลายคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยทำให้ผิวกระชับ เต่งตึง และกระจ่างใส
ผิวกระจ่างใส
- เรียบเนียน : Niacinamide ช่วยกระตุ้นการสร้างเซราไมด์ ซึ่งเป็นสารสำคัญในชั้นผิวหนังที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและปกป้องผิว
กระชับรูขุมขน : Niacinamide ช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันบนผิว ทำให้รูขุมขนไม่กว้าง
-
Niacinamide เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้แต่ผิวบอบบางแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ควรเริ่มต้นใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide เข้มข้น 2% ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มเปอร์เซ็นต์ขึ้นตามสภาพผิว หากมีอาการระคายเคือง ควรหยุดใช้ทันที